"Self-conquest is the greats of victory" การชนะใจตนเอง คือ ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

4/30/2011

เฟด กับการรอโอกาสเปิด QE3

money เป็นไปตามคาดการณ์ของหลายฝ่าย เมื่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 ผ่านการผ่อนปรนเชิงปริมาณ หรือ QE2 ตามกำหนดการเดิมในเดือนมิ.ย. นี้ โดยไม่มีการยุติมาตรการลงกลางคัน ดังที่เคยมีกระแสถกเถียงกัน หลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มแสดงอาการที่ดีขึ้น

“เรากำลังจะยุติมาตรการการซื้อพันธบัตร” คือคำกล่าวยืนยันจาก เบน เบอร์แนนคี ผู้ว่าการ เฟด และถือเป็นคำกล่าวที่ค่อนข้างมีน้ำหนัก หากพิจารณาจากการที่ผู้ว่าการ เฟด ได้กล่าวประโยคนี้ต่อหน้าสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 97 ปีที่ เฟด จัดแถลงข่าวต่อหน้าสื่อ

ก่อนหน้านี้ เฟด มักเปิดเผยรายละเอียดมติและความเห็นของที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบาย (FOMC) ในช่วงเดือนหลังการประชุม และเป็นการเปิดเผยเฉพาะตัวรายงานสรุปการประชุมเท่านั้น

คำยืนยันและการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ของ เบอร์แนนคี เป็นการตอกย้ำถึงความน่าเชื่อถือของ เฟด ให้ประชาชนสหรัฐและชาวโลกได้มั่นใจว่า การยุติมาตรการ QE2 เป็นไปตามครรลองที่เหมาะสมแล้ว

อย่างไรก็ตาม เบอร์แนนคี ไม่ได้ยืนยันว่าการยุติมาตรการ QE2 หมายถึงสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้น หลังจากที่ รัฐบาลสหรัฐทุ่มงบประมาณไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจไปแล้วถึง 1.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ นับตั้งแต่ปี 2551 ตรงกันข้าม การยุติมาตรการ QE2 ตามกำหนด สะท้อนถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้

เมื่อเดือน พ.ย. 2553 เฟด พยายามยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ QE2 ลงกลางคัน หลังจากที่ปรากฏสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มการฟื้นตัว แต่แล้วสัญญาณบ่งชี้กลับเป็นสัญญาณลวงจน เฟด ต้องเริ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแทบไม่ทันตั้งตัว เพราะด้วยสัญญาณลวง ยังผลให้สหรัฐถึงกับแทบเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยซ้ำซ้อน แม้แต่ในคราวนี้ตลาดทุนยังรับสัญญาณที่ผิดๆ จาก เฟด ยังผลให้ดัชนีแนสแด็ก ซื้อขายกันอย่างคึกคักที่สุดในรอบ 10 ปี

การยุติมาตรการ QE2 ตามกำหนดบ่งชี้ว่า เฟด จะไม่ยอมปล่อยให้สัญญาณลวงมาเดิมพันกับอนาคตของเศรษฐกิจอีกครั้ง และหากถึงกำหนดการถอนตัวจาก QE2 ในเดือน มิ.ย. นี้แล้ว หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น โอกาสที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป มีอยู่สูงพอสมควร

หมายความว่า เฟด จะคลอดมาตรการ QE3 ในอีกไม่นาน หลังจากยุติ QE2 เพื่อสำรวจปฏิกิริยาของเศรษฐกิจในชั่วระยะเวลาหนึ่ง

ปฏิกิริยาที่ว่านี้ คือ ความสามารถที่เศรษฐกิจจะเคลื่อนไปข้างหน้าได้โดยลำพัง ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาแรงกระตุ้นพิเศษอีกต่อไป เพราะหากยิ่งกระตุ้นมากขึ้น สหรัฐจะเผชิญกับภาวะ 2 สูง นั่นคือ อัตราว่างงานสูงและอัตราเงินเฟ้อสูงซึ่งเป็น 2 ปรากฏการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน แต่หากเกิดขึ้นพร้อมกันเมื่อใด หมายความว่าสหรัฐกำลังตกที่นั่งลำบากอย่างร้ายแรง

คณะกรรมการ FOMC ของเฟด แถลงว่า “อัตราการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในระดับพอประมาณและสภาพการณ์ในตลาดแรงงานฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง”

อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ของ FOMC ดูเหมือนจะขัดแย้งกับท่าทีและแถลงการณ์ก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง  แถลงการณ์ของ FOMC ระบุตัวเลขคาดการณ์ไว้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวที่3.1-3.3% ในปีนี้ ซึ่งแม้จะต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ แต่ยังนับว่าสูงกว่า ตัวเลขคาดการณ์ของ เบอร์แนนคี ที่เชื่อว่า จะขยายตัวที่ราว 2% ถือเป็นอัตราที่แสดงถึงอาการค่อนข้างอ่อนแรง

ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า อัตราการขยายตัวช่วงไตรมาสแรกจะเหลือเพียง 2% จากไตรมาส 4 ปีที่แล้วที่ 3.1% มีอย่างหนึ่งที่ FOMC เบอร์แนนคี นักวิเคราะห์ และอาจรวมถึงรัฐบาลสหรัฐ เห็นตรงกันก็คือ บัดนี้ ภัยคุกคามจากภาวะเงินเฟ้อได้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก ซึ่งความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่นับว่าผิดความคาดหมายนัก เพราะเฟด มักมีปฏิกิริยาต่อภาวะเงินเฟ้อที่รวดเร็วและบางครั้งถึงกับตื่นตูม

เฟด มักยกให้เงินเฟ้อเป็นปัญหาใหญ่ไม่น้อยกว่าปัญหาว่างงาน แต่ที่ผ่านมา เฟด มีความเปราะบางกับปัญหาเงินเฟ้อมากกว่า เนื่องจากคงจะเห็นว่า เงินเฟ้อจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งเป็นพลวัตหลักของเศรษฐกิจสหรัฐ เนื่องจากภาคการบริโภคมีสัดส่วนสูงถึง 3 ใน 4 ของระบบเศรษฐกิจ

ขณะที่ รัฐบาลสหรัฐ มักมีปฏิกิริยาที่เปราะบางกับปัญหาว่างงาน เพราะการว่างงานไม่เพียงกระทบต่อรายได้ของประชาชน ที่จะนำมาใช้จ่ายเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นดัชนีที่บ่งชี้ถึงความสามารถของรัฐบาลที่จะยกระดับการกินดีอยู่ดีของประชาชน หากตัวเลขเงินเฟ้อสูง เสถียรภาพของรัฐบาลย่อมจะสั่นคลอน

อาจกล่าวได้ว่า รัฐบาลมักให้น้ำหนักกับการว่างงานเท่าใด เฟด จะให้น้ำหนักกับเงินเฟ้อมากเท่านั้น วันนี้ อัตราเงินเฟ้อ แม้จะต่ำกว่า 4% แต่เริ่มสูงขึ้นจนถึง 3% แล้ว ส่วนอัตราว่างงานแม้จะลดลง แต่ยังอยู่ในโซนอันตรายที่ 89% ด้วยปัจจัยเหล่านี้ จึงไม่น่าประหลาดใจที่นักลงทุนและนักวิเคราะห์เชื่อว่า การยุติมาตรการ QE2มิได้หมายถึงการสิ้นสุดของภาวะเศรษฐกิจซบเซาแต่หมายถึงการหยุดพัก หากมาตรการ QE2 ไม่ได้ผลเต็มเม็ดเต็มหน่วยในช่วงไตรมาส 2 หรือเป็นเพียงสัญญาณบวกแบบลวงๆ ดังที่เคยเกิดขึ้นช่วงปลายปีที่แล้ว มีโอกาสที่ เฟด จะต้องหันกลับไตร่ตรองมาตรการที่เหมาะสมในขั้นตอนต่อไป

จนกว่าสหรัฐจะเข้าที่เข้าทางอย่างแท้จริงเราอาจได้เห็น QE อีกหลายเวอร์ชัน

Post Today
Last update : 4/29/2011