"Self-conquest is the greats of victory" การชนะใจตนเอง คือ ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

8/13/2009

เราจะเริ่มต้นอย่างไร?

ในตลาด ซื้อขายเงินตราต่างประเทศ จะต่างจากหุ้น ตรงที่ เราจะดูกันเป็น “คู่” ครับ ยกตัวอย่างเช่น EUR/USD คือการเปรียบเทียบระหว่างเงินยูโร กับเงินดอลลาร์ ค่าเงินด้านซ้ายเราเรียกว่า base currency โดยเรามักจะเห็นราคา ซื้อ-ขาย มี 2 ราคา อย่างนี้ครับ EUR/USD ราคาBid= 1.4000 ราคาAsk= 1.4004 เมื่อเราต้องการซื้อจะได้ราคา Ask=1.4004 เมื่อเราต้องการขายเราจะได้ราคา Bid= 1.4000 มันก็คือราคาซื้อกับราคาขายนั่นเอง

ข้อดีของตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศ คือ เราสามารถซื้อขายได้ทั้งขาขึ้นและขาลง

ถ้าเราสั่ง ซื้อ (เรียกว่า Buy หรือ Long) เราจะได้ราคาที่ Ask=1.4004 และเมื่อเราสั่งปิด order นี้ เราจะได้ราคาที่ Bid=1.4000
การ Buy คือการที่เราซื้อมาถือไว้ เพื่อรอราคาให้สูงขึ้น และเราจะปิด order นี้ โดยการ Sell คืน


เมื่อเราสั่ง ขาย (เรียกว่า Sell หรือ Short) เราจะได้ราคาที่ Bid=1.4000 และเมื่อเราสั่งปิด order นี้ เราจะได้ราคาที่ Ask=1.4004
การ Sell คือการที่เราขายออกไปก่อน เพื่อรอราคาตกลงมา และเราจะปิด order นี้ โดยการ Buy คืน


สมมุติว่า เราพิจารณาแล้ว เราเห็นว่า EUR น่าจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับ USD (คือ EUR จะแลก USD ได้มากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป) เราจะทำการเข้า ซื้อ Buy โดยที่เราจะได้ราคา Ask=1.4004 เมื่อเวลาผ่านไป ราคาวิ่งขึ้นไป ที่ 1.4054 หรือขึ้นมา 50 จุด แล้วเราต้องการขายเราจะได้ราคา Bid=1.4054 เท่ากับเราจะได้กำไรทั้งหมด 50จุดครับ

สรุป
เมื่อเราซื้อ Buy เราจะได้ราคาที่ Ask เมื่อเราต้องการปิดorder โดยการ Sell คืน เราจะได้ราคาตรงข้ามคือราคาที่Bid
เมื่อเราขาย Sell เราจะได้ราคาที่ Bid เมื่อเราต้องการปิดorder โดยการ Buy คืน เราจะได้ราคาตรงข้ามคือราคาที่ Ask

No comments:

Post a Comment