สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับความแข็งแกร่ง Strength หรือ ความอ่อนแอ Weakness ของตลาดในวันนั้น หรือแม้กระทั่งในขณะเวลานั้น โดยพิจารณาถึงความสัมพันธ์ระหว่างราคาปิดและราคาเปิด แต่ถ้าจะให้มีความหมายชัดเจนมากยิ่งขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างแท่งเทียนหลายๆแท่งที่มีต่อกัน จะให้ความหมายของตลาดที่ชัดเจนและแม่นยำยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญจะได้มาจาก Formation ของ Candles หลายๆแท่งต่อเนื่องกัน ที่ประกอบขึ้นมาเป็น Pattern แท่งเทียนแต่ละแท่ง ถึงแม้บางครั้งจะมีลักษณะเหมือนกันทุกประการ แต่จะมีความหมายต่างกันเมื่ออยู่ในสถานะที่ต่างกัน
Charts แบบ Candlesticks ที่เริ่มต้นใช้กันในญี่ปุ่นและแพร่หลายเข้าไปในตลาดโลกในศตวรรษ 1900 แล้ว Candlestick charts ก็ได้รับความนิยมเหนือ Bar Chart ธรรมดาทันที ข้อที่น่าสนใจคือการตั้งชื่อ Patterns ต่างๆ ของ Combinations ของ Candlesticks ซึ่งสามารถให้ข้อมูลในการพิจารณาสภาพตลาดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ถึงแม้ Charts ทั้งสองชนิด จะให้ข้อมูลเรื่อง Pattern ในทำนองเดียวกัน แต่ Candlesticks สามารถให้ข้อมูลพิเศษนอกเหนือกว่านั้นอีก เช่นการพิจารณา Bodies – price action ระหว่างราคา Open และ Close และ Shadows หรือ Tails – price action
Candlestick charts เป็นที่นิยมกันในหมู่นักลงทุนชาวตะวันตกอย่างรวดเร็ว สามารถให้สัญญาณการเปลี่ยน Trends ได้ดีกว่าและรวดเร็วกว่า และต้องทำควบคู่ไปกับความรู้พื้นฐานอื่นๆ

Shadows เป็นส่วนที่เป็นเส้นเดี่ยวอยู่นอกเขตุของ Body ส่วนที่อยู่ด้านบนเรียกว่า Upper shadow และส่วนที่อยู่ด้านล่าง เรียกว่า Lower shadow ถ้าเราวัดเฉพาะความยาวของ Shadow เมื่อเกิด Convergence/Divergence ของ Upper shadow ก็จะเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนจาก Up-trend ไปเป็น Down-trend และเมื่อเกิด Convergence/Divergence ของ Lower shadow ก็จะเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนจาก Down-trend ไปเป็น Up-trend
No comments:
Post a Comment